ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"รามายณะ" หนึ่งในวรรณคดีเก่าแก่ของโลกที่ควรค่าแก่การอ่าน Ramayana Story

หนังสือดีจึงอยากแนะนำ เล่มนี้อ่านจบเป็นลำดับท้ายสุดจากกองหนังสือที่ซื้อมาพร้อมๆกัน แต่จะขอเขียนถึงเป็นเล่มแรกเพราะประทับใจในเนื้อหาและการเรียบเรียงที่ผู้เขียนส่งต่อมาถึงผู้อ่าน 
โดยกลั่นกรองเรื่องราวของวรรณคดีที่เก่าแก่มากเรื่องนึงของโลกมาถ่ายทอดเป็นเรื่องเล่าอ่านเข้าใจง่าย และเมื่ออ่านจนจบเรื่องแล้ว พบว่าเนื้อเรื่องสนุก และเปิดโลกทัศน์ต่อความเชื่อของชาวฮินดูที่ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ต้องการปฏิบัติตนให้ถึงซึ่ง"โมกษะ" หรือความหลุดพ้นเช่นเดียวกับเราชาวพุทธ แต่เพียงเส้นทางปฏิบัติอาจแตกต่างกัน ฮินดูถือเป็นศาสนาความเชื่อที่เก่าแก่มากนับพันๆปีและคัมภีร์พระเวทก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้พบกับพระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะได้ออกบวชเพื่อค้นเจอหลักธรรมะสู่นิพพานและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ได้ทรงเล่าเรียนคัมภีร์พระเวทมาก่อนและเพียรปฏิบัติจนค้นพบแนวทางของพระองค์เอง จนเราชาวโลกและชาวพุทธได้ธรรมะของพระองค์มาจนถึงปัจจุบันนี้

📚เมื่อก่อนที่จะได้หนังสือเล่มนี้มาอ่าน ไม่ค่อยเข้าใจในฮินดูมากเท่าที่ควรจากที่เคยสัมผัสจากสังคมรอบๆตัวหลายคนนับถือเทพตามความเชื่อของฮินดู จึงเคยเข้าใจไปว่านับถือและบูชาเหล่าเทพ(พระพรหม พระศิวะ พระวิษณุ  ฯลฯ) เพื่อมงคลชีวิตเท่านั้น ไม่เห็นเหมือนทางพุทธที่ปฏิบัติภาวนาเพื่อความสงบและหลุดพ้นจากวัฏสงสาร แต่แท้จริงแล้วทั้งสองความเชื่อนี้ไม่ต่างกันปฏิบัติตามแนวทางของตนเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันคือความสงบหลุดพ้น 

📚และแม้เรื่องเล่าจากมหากาพย์ระดับโลกอย่างรามายณะ จะเป็นเพียงวรรณกรรมอ่านเพื่อความสนุกบันเทิงแล้ว ยังแฝงซึ่งความรู้ และความศรัทธาในเรื่องความเชื่อของชาวฮินดูที่มีมาแต่โบราณนานอดีต นับว่ามีประโยนช์และควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่ง


🙏ขอขอบคุณหนังสือดีดีจากสนพ.กอแก้ว🙏

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หนังสือ บ๊อบแมวเตะฝันข้างถนน A street cat named Bob Book

"A street cat named Bob" หนังสือน่าอ่าน เรื่องจริงของแมวกับหนุ่มเร่ร่อนที่ได้มาเจอกันโดยบังเอิญ แต่ลึกๆแล้วพวกเค้าคงคิดว่ามันพิเศษกว่านั้น เจมส์ โบเวน ถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่ชีวิตอันเหลวแหลกไม่น่าพิศมัย จนได้มาเจอกับแมวจรจัดสีส้ม และเค้าตั้งชื่อมันว่าบ๊อบ ตั้งแต่บ๊อบเข้ามาในชีวิตของเจมส์ ทำให้เจมส์กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจากที่ไม่มีใครสนใจหรือเห็นเค้ามีตัวตนมาก่อน ที่ว่ามีตัวตนขึ้นมา ไม่ใช่ว่ามาจากคนที่เข้ามาดูแมวของเขา แต่มาจากการมองตัวเองของเจมส์ ที่เจมส์ระลึกได้ว่าต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการใช้ชีวิต เพื่อดูแลบ๊อบให้ดี โดยเริ่มตั้งแต่เข้าโปรแกรมเลิกยา หางานทำใหม่ และที่สำคัญเขาดูแลบ๊อบดีมาก คอยสังเกตุพฤติกรรม ใส่ใจความรู้สึกของบ๊อบ เข้าห้องสมุดชุมชนเพื่อหาข้อมูลการเลี้ยงแมว เข้าคลีนิกหาสัตวแพทย์ทั้งๆที่ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่สำหรับเจมส์ เขาว่ามันคุ้มค่าที่จะจ่ายเพื่อบ๊อบ  เห็นความรักความทุ่มเทอย่างนี้แล้ว ไม่แปลกเลยที่บ๊อบเองก็คงจะรักเจมส์เช่นกันเพียงแต่มันพูดออกมาไม่ได้ แต่จะสำคัญอะไรล่ะ ในเมื่อทุกๆ วันบ๊อบก็อยู่เคียงข้างกับเจมส์เสมอ บ๊อบ แมว

“กามนิต วาสิฏฐี” หนึ่งในร้อยเล่มหนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน Der Pilger Kamanita

ผู้ประพันธ์: คาร์ล แอดอล์ฟ เกลเลอโรป นักประพันธ์ชาวเดนมาร์ก ผู้แปล:เสฐียรโกเศศ–นาคะประทีป ความรู้สึกที่มีต่อวรรณกรรมชิ้นนี้ “กามนิต วาสิฏฐี” วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นหนึ่งในร้อยเล่มหนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน สำหรับข้าพเจ้าแล้วเห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อได้อ่านก็รู้สึกสัมผัสได้ถึงความสวยงามของภาษาไทย และบทบรรยายที่ยากจะหาได้จากวรรณกรรมเรื่องอื่นๆ เพราะอย่างหนึ่ง วรรณกรรมชิ้นนี้เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา แต่ผู้ที่แต่งเรื่องนี้ไม่ได้เป็นผู้ที่เกิดในดินแดนของพุทธศาสนา แต่ด้วยเนื้อเรื่องกลับทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกทึ่งในความฉลาดปราดเปรื่องที่ผู้แต่งสามารถอ้างอิงบุคคล และสถานที่ได้อย่างสมจริงสมจัง อีกทั้งยังผูกโยงเรื่องความรัก ความเศร้าโศกอาลัยอาวร และความปลื้มปิติในการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอันเป็นแก่นสารสำคัญตามความเชื่อของศาสนาพุทธเอาไว้ได้อย่างลงตัว   ในส่วนของผู้แปลซึ่งก็ได้แปลมาจากฉบับภาษาอังกฤษนั้นก็สามารถที่จะเลือกสรรถ้อยคำ อุปมา อุปไมยมาใช้ได้อย่างลงตัว เพราะมีทั้งความไพเราะและความหมายที่ลึกซื้งชัดเจน เห็นได้ชัดว่าผู้แปลมีความรู้ทางด้านภาษาสูงมาก และยังมีความพยายามในการแปลด้